บทละครที่แต่งเพื่อคะแนนวิชาพระพุทธ-*-
คำว่าแก้แค้นน่ะ.....รู้จักกันไหม? แล้วรู้ไหม? ว่าคนบางคนแค่พูดสักคำเค้าก็กลับตัวแล้ว??
ผู้เข้าชมรวม
1,717
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่อง.....เปลี่ยนได้เพียงแค่เอ่ย......
เย็นวันหนึ่งที่ท้องฟ้าสดใส มีเด็กสาวคนหนึ่งยืนมองชายที่ทิ้งตนไปอย่างไม่ใยดี เธอกัดฟันกรอดด้วยความแค้น แล้วยิ่งเห็นชายคนนั้นโอบร่างของหญิงสาวที่ไม่ใช่เธอ เธอก็ยิ่งโกธร ความคิดอยากแก้แค้นเข้ามาในหัวแทนความเสียใจและเศร้าโศกที่โดนหักหลัง
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มตั้งแต่ที่เธอได้พบกับเขา.....
“ เป็นแฟนกับเรานะ...นายา..... ” ชายคนหนึ่งที่ชื่อบาทีมาขอเธอเป็นแฟน
“ ขอโทษนะ......แต่อย่ามายุ่งกับเราเลย ” ตอนแรกเธอก็ปฏิเสธไป แต่ชายคนนี้ยังคงง้อตามมาอย่างไม่ลดละ ทั้งซื้อของให้เอย คำกล่าวหวานๆที่พร่ำกล่าวออกมาทุกวันเอย นั่นทำให้เธอใจอ่อน แล้วในที่สุดก็ยอมเป็นแฟนกับเขาจนได้
“ ......นี่นายา ทำไมเธอถึงยอมเป็นแฟนกับบาทีล่ะ ” วันหนึ่งเพื่อนสนิทที่สุดของเธอเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ” เธอตอบกลับไปอย่างไม่แน่ใจนัก
“ หรอ..... ” เพื่อนของเธอหรือพันดีจ้องมองเธอนิ่งๆไม่ได้กล่าวอะไร
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พบเพื่อนของเธอเดินอยู่กับแฟนเธอบ่อยๆ ทำให้เธอเริ่มสงสัย ในตอนแรกนั้นเธอยังไม่ได้คิดอะไร แต่วันหนึ่งนายาก็ได้เห็นด้านที่เธอไม่เคยเห็นจากบาทีมาก่อน เพื่อนสนิทของเธอ.....พันดี กำลังพูดคุยเรื่องบางอย่างกับบาทีในห้องสมุด
“ ฉันเบื่อเต็มทนแล้วนะ...เมื่อไหร่เธอจะเลิกกับนายาสักทีล่ะ ไหนว่านายาไม่สำคัญอะไรไง? ” ตอนแรกนายาตั้งใจจะเดินเข้าไปทักแต่พอได้ยินประโยคนั้นเธอก็ชะงัก นายาเดินเข้าไปใกล้แล้วเงี่ยหูฟังความลับของทั้งสองคน เธอโกรธ....แต่เธอยังไม่ทำอะไรออกไปเพราะต้องการรู้ความจริงของเรื่องทั้งหมดเสียก่อน
“ หึ........ยังหรอกน่า...ยังเก็บไว้ใช้ประโยชน์ได้ ยังโง่นั้นมีเงินตั้งเยอะ จะขอเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้นล่ะ...คิดว่าฉันยอมเสียเงินค่าของขวัญตอนจีบยัยนั่นไปทำไมกัน? ” บาทีเอ่ยอย่างอย่างเย็นชา พันดีเอง......ก็หัวเราะคิกๆกับความโหดร้ายของบาทีด้วย
“ แล้วอย่างฉันเนี่ย.....ก็หลอกใช้เหมือนกันงั้นหรอ? ” พันดีเอ่ยถามยิ้มๆ
“ ไม่หรอก...ถ้าเป็นเธอชั้นไม่โกหกหรอก......... ”
ทุกๆคำพูดของทั้งสองเข้าไปในหัวของนายาพร้อมความแค้นที่เกิดขึ้น เธอก้าวเดินไปเบื้องหน้าแล้วตบใบหน้าของแฟนและเพื่อนรักพร้อมกับคำพูดที่ตัดทิ้งซึ่งเยื่อใย
“ หึ...อย่าหวังจะได้รับอะไรจากฉันคนนี้เลย..........พวกเศษสวะที่แม้แต่สังคมยังไม่ยอมรับ.......... ” เธอกล่าวพร้อมหมุนตัวเดินจากไป สาเหตุที่นายาเอ่ยเช่นนั้นเป็นเพราะพันดีและบาทีนั้นเป็นพวกที่คนอื่นๆไม่กล้าเข้าใกล้ ที่เธอยอมรับพันดีเพราะเขาหน้าสงสาร....แต่ดูเหมือนความสงสารของเธอจะทำลายตัวเธอเอง แต่บาทีนั่นไม่ใช่.....เธอไม่รู้จักอะไรเค้าเลย...จนกระทั่งได้ยินเพื่อนในชั้นเอ่ยนินทาถึงเรื่องของเธอกับบาที และตอนนี้........เธอเองที่จะตัดเยื้อใยทั้งหมดทิ้ง....
จวบจนถึงปัจจุบัน เธอยืนจ้องมองทั้งสองอย่างเคียดแค้น นายาต้องการจะแก้แค้นที่หลอกใช้ความอ่อนต่อโลกของเธอ
“ พวกแกไม่ได้ดีแน่......เจ้าเศษสวะ! ” เธอกระซิบกับตนเองอย่างมุ่งร้าย นายาก้าวเดินตามทั้งสองที่คุยกันอยู่ที่บันได เธอเดินเข้าไปใกล้ทั้งสองคนในระยะประชิด เธอผลักทั้งสองตกลงไปยังเบื้องล่างโดยที่ทั้งสองไม่มีเวลาหันมามอง
“ กรี๊ดดดดดดดด!!! ” นายาแกล้งกรีดร้องเสียงดัง ซึ่งนั้นทำให้คนอื่นๆเดินมาดูและในระหว่างที่อลหม่านกันนั้นเธอก็แอบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ แต่ดูเหมือนเธอจะคิดผิดที่ออกมาจากที่นั่น....
“ ....เมื่อกี้คุณเป็นคนผลักเค้าสองคนลงไปใช่ไหมครับ ” ผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทางด้านหลังของเธอ นายาหันกลับไปมองผู้ที่เอ่ยประโยคนั้นกับเธอ เธอยิ้มเย็นๆอย่างเย็นชาให้ชายคนนั้น
“ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะทำอะไรฉันได้......แม้แต่หลักฐานก็ไม่เห็นจะมี... ” นายาเอ่ยพร้อมกับเดินจากไป ทิ้งให้ชายคนนั้นมองมาอย่างเศร้าๆ แต่เขาก็หยิบที่อัดเสียงออกมาจากกระเป๋าพร้อมเอ่ยเบาๆ
“ ถึงผมจะไม่มีหลักฐาน.....แต่ผมก็สามารถหามันมาได้นะครับ.. ”
วันนั้น...ทั้งพันดีและบาทีเข้าโรงพยาบาททั้งคู่ แต่บาดแผลที่เกิดไม่ได้ทำให้นายาหายแค้น เพราะทั้งสองเพียงแค่ขาหักไปข้างหนึ่งเท่านั้น เธอพยายามทำร้ายทั้งสองคนอีกครั้ง นายาเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย ขณะที่พันดีหลับ เธอเข้าไปหาบาที เขาจ้องมองเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ ฮะๆๆ.......นี่เธอก็มาเยี่ยมด้วยหรอเนี่ย นึกว่าเธอจะโกรธจนไม่ยอมแม้แต่จะมองหน้ากันซะอีก ” บาทีเอ่ยอย่างขำๆ แต่คำพูดของนายาทำให้เขาต้องชะงัก
“ เปล่า...แค่จะมาเยอะเย้ย.............แล้วก็มาดูผลงานของตัวเองที่ดูเหมือนจะทำได้ไม่ดีนัก.....รู้งี้ฉันน่าจะผลักพวกเธอสองคนลงมาจากดาดฟ้าเสียดีกว่า...แค่ขาหักนะ มันยังน้อยไป........ ” เธอเอ่ยอย่างเลือดเย็นเป็นการข่มขู่แล้วเดินออกไป ทิ้งให้บาทีนั่งนิ่งกับสิ่งที่ได้รับรู้ ตัวเขาเองไม่คิดจะแจ้งความใดๆเพราะพ่อแม่ของนายาเป็นคนใหญ่คนโตที่มีเส้นสายมากทีเดียว ยังไงนายาคงพ้นข้อหาอยู่แล้วเป็นแน่ บาทีจึงทำได้แค่คิด...ทบทวนสิ่งที่ตนและพันดีทำลงไปแม้แต่กับผู้หญิงคนก่อนๆ ดังนั้นพอโดนทำร้ายเองเสียบ้างก็เริ่มคิดได้ เขาปลุกพันดีขึ้นมาเล่าเรื่องราวทั้งหมดและตั้งใจจะไปขอโทษ.....
“ เราขอโทษนะนายา.....ให้อภัยเราเถอะนะ ” พันดีเอ่ยกับนายาที่ยืนมองพวกเค้าอย่างเลือดเย็น เธอไม่คิดจะให้อภัยทั้งสองเลยแม้แต่น้อย ในหัวของเธอมีแต่คำว่าทรยศหักหลัง
“ ถ้าให้อภัย... พวกเธอก็จะทำเรื่องแบบนี้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ชั้นต่อไปเรื่อยๆใช่ไหมล่ะ!? ”
นายาเอ่ยอย่างเครียดแค้นแล้วเดินจากไปโดยไม่ยอมให้ทั้งสองได้อธิบาย
“ คุณนายาครับ.......ให้อภัยเขาทั้งสองเถอะครับ... ” ชายคนเดิมที่เห็นเหตุการณ์ตอนนายาผลักทั้งสองตกลงไปเอ่ยขึ้น เธอหันกลับไปมองช้าๆอย่างหน่ายๆ หลังจากตอนนั้นเธอก็ไปสืบจนรู้ว่ามาเขาชื่อทิสาร
“ ........นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน? ” นายาเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ เพราะผมมีเทปคำสารภาพของคุณครับ...... ” ทิสารเอ่ยขึ้นช้าๆพลางหยิบเทปออกมาจากกระเป๋า เขาทำสีหน้าเศร้าๆจนทำให้นายาหงุดหงิด
“ แล้วไง?.....จะเรียกร้องอะไรจากฉันรึไง....... ” นายาเอ่ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าทุกๆคนที่เข้าใกล้เธอหวังจะใช้ประโยชน์จากเธอทั้งสิ้น
“ ปล่าวครับ......แค่อยากให้คุณยอมรับคำขอโทษของเค้าทั้งสอง...แล้วก็.....อยากให้คุณกลับมาเป็นเหมือนเดิมเท่านั้นละครับ ” ทิสารเอ่ยตอบ เขาแค่หวังดีกับคนตรงหน้าเท่านั้น
“ ....... ” นายาไม่เอ่ยอะไร.....เธอกำลังคิดว่าสิ่งที่คนๆนี้พูดมาเป็นความจริงแค่ไหน
“ เมื่อก่อนนี้คุณเป็นคนดี......เป็นคนที่รู้จักสงสารคนอื่น...ผมชอบคุณที่เป็นแบบนั้น... ” ทิสารเอ่ยขึ้น เขาแอบชอบนายาตั้งแต่ตอนแรกที่พบ แน่ล่ะ......ว่านายาไม่รู้หรอกว่ามีเค้าอยู่...
“ .....นาย..........ถึงฉันจะเป็นแบบนี้นายก็ยังชอบอยู่งั้นหรอ? ” นายาถามอย่างสงสัย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมทิสารยังคงชอบเธออยู่ทั้งๆที่เห็นเธอทำร้ายคนอื่น
“ เพราะงั้นผมถึงได้อยากให้คุณกลับเป็นอย่างเดิมยังไงล่ะครับ......... ” ทิสารเอ่ยขึ้นพร้อมกลับเอาเทปในมือให้นายา เขาไม่คิดจะส่งเทปนี้ให้ตำรวจแต่แรกแล้ว
หลังจากวันนั้นนายาก็ยอมให้อภัยพันดีและบาทีและเธอเองก็ขอโทษเขาทั้งสองด้วย ทั้งสามคนจึงกลายเป็นเพื่อนกัน แต่นายาก็บอกให้บาทีไปขอโทษผู้หญิงทุกคนของเขาเสียก่อนซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ขัดข้องเสียด้วย และตอนนี้ก็มีสมาชิกเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง คือทิสาร
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดก็จบลงด้วยดี ไม่มีใครเอาเรื่องใคร เรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นเพียงความลับกันในกลุ่มเท่านั้น
“ ขอบใจนะทิสาร.....ที่ทำให้ฉันคิดได้ ” นายาเอ่ยกับทิสาร ตอนนี้เธอกับเขาเป็นแฟนกันอยู่
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ......ผมแค่ทำตามหน้าที่ ที่ทำเพื่อคนที่รักเท่านั้นเอง ” สิ้นคำพูดของทิสาร ก็เป็นตอนจบของเรื่องที่แท้จริง ชีวิตก็ดำเนินต่อไปอย่างมีความสุข โดยที่ไม่มีใครหักหลังใครอีก
ป.ล. อย่าสงสัยเรื่องชื่อตัวละคร....
บาที = บาทาหรือฝ่าพระบาท(เรียกสั้นๆว่าเท้า)[ความจริงตอนแรกตั้งว่าบาท]
นายา = คนขายยา(เพื่อนตั้งให้)
พันดี = พันตีน....(เพื่อนก็ตั้งให้อีกนั้นล่ะ)
ส่วนคนสุดท้านเนี่ยไม่รู้ว่ามาจากไหนแต่ดูจะเป็นชื่อที่ได้เรื่องได้ราวที่สุด-*-
ผลงานอื่นๆ ของ mory ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ mory
ความคิดเห็น